เราต่างรู้จักประเทศยูเครนในแง่มุมทางการเมืองและการทหารจากสงครามรัสเซียยูเครนที่เกิดขึ้นและยังคงมีความตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ประเทศยูเครนมีสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมสลาฟตะวันตกที่แสนงดงามไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ สถานที่แสนงดงามเหล่านี้ จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันค่ะ
1) กรุงเคียฟ (Kiev)
เมืองหลวงของประเทศยูเครน ตั้งอยู่ที่ภาคกลางตอนบน ถือได้ว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก นอกจากนี้ยังเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด เรียกได้ว่าถ้ามายูเครนก็ต้องมาเที่ยวและปักหลักที่กรุงเคียฟก่อนนั่นเอง
กรุงเคียฟเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโซเวียต โบสถ์โดมสีทอง และอารามสถานโบราณ โดยแลนด์มาร์คของกรุงเคียฟต้องยกให้ “มหาวิหารเปอเชอร์สก้า ราฟลา” (Pechersk Lavra) ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของยูเครน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี 1990 อีกด้วย
มหาวิหารเปอเชอร์สก้า ราฟลามีความสำคัญจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ก่อตั้งเมื่อปี 1051 สำหรับเพื่อให้นักบวชเข้ามาปฏิบัติธรรม จนกลายเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายออโธด็อกซ์
2) เมืองลวีฟ (Lviv)
เมืองลวีฟ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกของยูเครน เต็มไปด้วยความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวสลาฟ
เมืองแห่งนี้ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1240 และถูกตั้งชื่อว่า “ลีโอ” ซึ่งเป็นชื่อของพระโอรสคนโตของกษัตริย์ลิทัวเนียในยุคสมัยนั้น
ความสวยงามของเมืองอยู่ที่ “อาคารยุคเรเนสซองส์” ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมตะวันตกแฝงไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเก่าแก่และมีเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานหลายแห่งที่ได้รับการคุ้มครองจาก UNESCO และสถานที่สำคัญที่ต้องไปเยือนในเมืองลวีฟคือ “หอศิลป์แห่งชาติ” ที่เต็มไปด้วยงานศิลปะกว่า 50,000 ชิ้น
3) เมืองมูกาเชโว (Mukachevo)
เมืองมูกาเชโว ตั้งอยู่ทางตะวันตกของยูเครนเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเนินเขาเขียวขจีและอนุสรณ์สถานโบราณมากมาย
ไฮไลต์ของเมืองนี้คือ “ปราสาทพาลาน็อค (Palanok) แห่งเมืองมูกาเชโว” ถูกสร้างในสมัยยุคกลางปี 1396-1414 สมัยเจ้าชายเฟดอร์ โคเรียโทวิช (Fedor Koryatovich) ซึ่งได้มีการต่อเติมป้อมปราการเข้าไปเพิ่มเติมกลายเป็นสถานที่ที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
ปราสาทตั้งอยู่บนยอดเขาทำให้เห็นวิวเมืองมูคาเชโวได้กว้างไกล นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้แก่ รูปปั้นคนกวาดปล่องไฟมหาวิหารเซนต์มาร์ตินแห่งตูร์ โบสถ์ออร์โธดอกซ์
4) เมืองเชอร์นิวต์ซี (Chernivtsi)
เมืองเชอร์นิวต์ซี ตั้งอยู่บนแม่น้ำปรุต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Little Vienna” เพราะมีสถาปัตยกรรมโดดเด่นคล้ายกับเมืองในออสเตรเลีย ถือเป็นหนึ่งในเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เพราะเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์หลากหลายวัฒนธรรมและกลิ่นอายของยุโรปตอนกลาง
สถานที่สำคัญเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึง “มหาวิทยาลัยแห่งชาติเชอร์นิวต์ซี” ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO เพราะอาคารด้านในที่สวยงามคล้ายกับพระราชวัง รวมถึงยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในยูเครนอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นที่สวยงามพร้อมให้เยี่ยมชมมากมาย ได้แก่ วิหารแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ โบสถ์อาร์เมเนีย ศาลาว่าการ Chernivtsi ฯลฯ
มหาวิทยาลัยแห่งชาติเชอร์นิวต์ซี (Chernivtsi National University)
5) เมืองคาเมียเนสโพดิสกี้ (Kamianets-Podilskyi)
แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองต้องยกให้ “ปราสาทคาเมียเนสโพดิสกี้” ถือเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดในยูเครนและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ซึ่งถูกปกครองโดยชาวลิทัวเนียแต่เดิม
นอกจากนี้ยังมีความสำคัญทางการค้า ทำให้ดึงดูดชาวโปแลนด์ เยอรมนี อาร์เมเนีย ยิว ยูเครน โรมาเนียและรัสเซียให้เข้ามาอยู่อาศัยจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 และในปัจจุบันจึงกลายเป็นเมืองที่อยู่ในอาณาเขตประเทศยูเครน
เมืองแห่งนี้มีฉายาว่า “เมืองแห่งเกาะ” เพราะตั้งอยู่บนหินขนาดใหญ่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ Smotrych ที่ลึกกว่า 40 เมตร ทำให้มีลักษณะคล้ายเกาะล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำจึงเป็นที่มาของฉายานี้นี่เอง
Sources :
https://expatexplore.com/blog/ukraine-best-places-to-visit/
https://www.thrillophilia.com/destinations/ukraine/places-to-visit
Comments