สวีเดน ค้นพบแหล่งแร่เหมืองใหญ่ที่สุดในยุโรป

เมื่อไม่นานมานี้ LKAB บริษัทเหมืองแร่ของรัฐบาลสวีเดน ได้ค้นพบแหล่งแร่ “Rare Earth” ขนาดกว่า 1 ล้านตัน ที่ใช้ตั้งแต่อุตสาหกรรมการผลิตแม่เหล็กไปจนถึงอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และกังหันลม ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ เนื่องจาก ยุโรปพึ่งพาการนำเข้าแร่ธาตุจากต่างประเทศมากเกินไป

การค้นพบในครั้งนี้ อาจช่วยให้ยุโรปลดการพึ่งพาแร่ธาตุจากประเทศอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะจากจีน และยังสามารถช่วยให้ยุโรปสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ด้านการหันมาใช้พลังงานสะอาด จากการมีแร่ธาตุในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้

ภาพรวมอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในสวีเดน

อุตสาหกรรมการผลิตเหมืองแร่ของสวีเดนมีประวัติศาสตร์มายาวนาน และมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีความเกี่ยวเนื่องกับกลุ่มอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจอื่น ๆ มากมาย

อุตสาหกรรมเหมืองแร่คิดเป็นสัดส่วนของ GDP สวีเดนราว ๆ 3% และสนับสนุนการจ้างงานอย่างน้อย 100,000-125,000 งาน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 2-4% ของงานทั้งหมดในสวีเดน

นอกจากนี้อุตสาหกรรมเหมืองแร่ของสวีเดนมีสัดส่วนประมาณ 8% ของการส่งออกของประเทศ และยังเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดการลงทุนของประเทศ โดยอุตสาหกรรมเหมืองแร่นี้ ดึงดูดเงินลงทุนประมาณ 5% ของเงินลงทุน FDI ทั้งหมด

ปัจจุบัน สวีเดนมีเหมืองแร่ทั้งหมดอยู่ที่ 12 แห่ง และในปี 2021 การผลิตแร่เหล็กของเหมืองแร่ในสวีเดนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 88.6 ล้านตัน

นอกจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในสวีเดนจะมีความสำคัญต่อประเทศของตนแล้ว ยังเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในการผลิตแร่เหล็กให้กับยุโรปอีกด้วย เพราะสวีเดนเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของยุโรป

โดยสวีเดนมีแร่เหล็กกว่า 90% ของทวีปยุโรป มีทองแดงราว ๆ 9% และมีแร่อื่น ๆ อีก เช่น ตะกั่ว สังกะสี เงิน และทองคำ ในปี 2020 ที่ผ่านมาสวีเดนผลิตแร่เหล็กคิดเป็นประมาณ 93% ของการผลิตแร่เหล็กในทั่วยุโรป

การค้นพบครั้งสำคัญ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัท LKAB ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ของสวีเดน ได้ออกมาแถลงข่าวค้นพบแหล่งผลิตแร่ Rare Earth ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปทางตอนเหนือของสวีเดน ซึ่งตั้งอยู่ติดกับเหมืองถ่านหินที่มีการดำเนินกิจการอยู่ โดยคาดว่าแหล่งที่ค้นพบในครั้งนี้ นี้จะมีแร่ Rare Earth อยู่มากกว่า 1 ล้านตัน

ซึ่งการค้นพบนี้อาจทำให้ยุโรปหันมาขุดหา Rare Earth เอง และหลุดพ้นจากการพึ่งพาจีนอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม กว่ายุโรปจะขุดแร่มาใช้ได้ก็ใช้เวลาอย่างน้อย 10-15 ปี เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การยื่นใบอนุญาตสำรวจ การใช้เวลาในการสำรวจแร่ธาตุทั้งหมด ตลอดจนเริ่มขุดและส่งมอบวัตถุดิบออกสู่ท้องตลาด

แต่การค้นพบในครั้งนี้ก็คงสร้างแรงกระเพื่อมให้กับผู้ส่งออกแร่ธาตุรายใหญ่ขอโลกอย่างจีนไม่มากก็น้อย