Global Economics Update

ปี 2023 เงินเฟ้ออาจลดลงอย่างต่อเนื่องหรือไม่?


หลังจากปีแห่งความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจโลก และเผชิญภาวะเงินเฟ้อสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายทศวรรษ 
ในที่สุด เราก็ได้เห็นอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลงแล้ว และในปี 2023 เราจะได้เห็นเงินเฟ้อในอีกหลาย ๆ ประเทศทยอยปรับตัวลดลงไปตาม ๆ กัน

นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยรวมไปถึงการว่างงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลจนธนาคารกลางของแต่ละประเทศสามารถหยุด หรือ ลดความรุนแรงของการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดลง 

ในปีหน้า ผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและอาหารอาจผลักดันให้เงินเฟ้อพื้นฐานลดลงอย่างมาก โดยจากข้อมูลของ Capital Economics พบว่า ราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรจะลดลงในปีนี้ นอกจากนี้ หลังจากการปรับขึ้นด้านราคาอย่างรวดเร็วในปี 2022 อัตราเงินเฟ้อประจำปีจะเริ่มลดลงแม้ว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะยังสูงอยู่ก็ตาม 

ในช่วงปี 2023 ในขณะที่ผลกระทบของภาคพลังงานและอาหารจะลดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในประเทศที่พัฒนาแล้วได้มากกว่า 4 จุด เปอร์เซ็นต์

ผลกระทบจากโรคระบาดที่ทำให้ต้นทุนการบริการ เช่น ค่าเดินทางและโรงแรมผันผวนได้ผ่านพ้นไปแล้ว และอัตราเงินเฟ้อในภาคบริการเหล่านี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ความต้องการสินค้าตกแต่งบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ดูเหมือนจะกลับสู่ภาวะปกติเช่นกัน  เช่นเดียวกับอุปสงค์ทั่วโลกที่ผ่อนคลายลงในวงกว้างและการยกเลิกข้อจำกัด COVID (ยกเว้นประเทศจีน) จะทำให้การขาดแคลนสินค้าน้อยลงและต้นทุนการขนส่งลดลง

 

การว่างงานที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานกลับสู่เป้าหมาย

ในประเทศที่พัฒนาแล้ว การเติบโตของอัตราค่าจ้างยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานที่ตึงตัว โดยเฉพาะในสหรัฐฯ กำลังเริ่มคลี่คลายลงแล้ว

ในขณะที่ตลาดแรงงานในสหราชอาณาจักรและยูโรโซนเริ่มอ่อนตัวลง จากข้อมูลของ Capital Economics การเติบโตของค่าจ้างคาดว่าจะชะลอตัวลงเนื่องจากอัตราการว่างงานในปีหน้าอาจเพิ่มขึ้นและจากการคาดการณ์เงินเฟ้อดูเหมือนจะผ่านจุดสูงสุดแล้ว

โดยรวมแล้ว อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั่วโลกคาดว่าจะลดลงจากประมาณ 8% เป็น 3% ภายในสิ้นปี 2023 นำโดยกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (ยกเว้นจีน) 

ภายในสิ้นปี 2023 หรือในไตรมาสแรกของปี 2024  อัตราเงินเฟ้อทั่วไปน่าจะกลับไปสู่เป้าหมายของธนาคารกลาง และเมื่ออุปสงค์เริ่มลดลง อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก็คาดว่าจะลดลงอย่างมากเช่นกัน 

ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในสหราชอาณาจักรและยูโรโซนจะใช้เวลานานกว่ามากในการลดลงสู่เป้าหมายของธนาคารกลาง โดยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่สามารถลดลงมาสู่อัตราเป้าหมายได้ ซึ่งเราอาจได้เห็นการผ่อนคลายนโยบายของเฟดในปลายปี 2023 นี้ และในยุโรปอาจจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายในปี 2024 เป็นต้นไป

 

 

อัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่ความกังวลยังคงอยู่

ฝั่งผู้ผลิตคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของผลิตภัณฑ์จะค่อย ๆ ลดลงในเดือนต่อ ๆ ไป เนื่องจากข้อจำกัดด้านอุปทานที่ลดลง ต้นทุนการขนส่งที่ลดลง และอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอลง ยกเว้นในสหราชอาณาจักรที่อุตสาหกรรมการบริการยังคงเผชิญกับราคาที่สูงอยู่ ครัวเรือนในสหราชอาณาจักรและยูโรโซนคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอีกในปีหน้า 

สิ่งสำคัญ คือ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงจะช่วยลดความเป็นไปได้ที่พนักงานจะเรียกร้องค่าจ้างที่สูงขึ้น ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงเหมือนที่คาดไว้ หรือ มีการเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงก็ยังจะมีอยู่ และอาจนำไปสู่การคงนโยบายที่เข้มงวดต่อไปในปี 2023

 


References :

https://group.bnpparibas/en/news/economic-outlook-2023-hope-for-disinflation-fear-of-recession

https://www.capitaleconomics.com/publications/global-inflation-watch/year-disinflation

 

Ant Group บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มการเงินยักษ์ใหญ่ของจีน

Previous article

4 สัญญาณในตลาดแรงงาน สะท้อนภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไร?

Next article

Comments

Leave a reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *