สถานการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกดูเหมือนว่าเรากำลังจะได้รับข่าวดี โดยจากการคาดการณ์ของ Bloomberg Economics พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกคาดว่าจะลดลงเหลือ 9.5% ในไตรมาสที่ 4 และ 5.3% ภายในสิ้นปี 2023 ลดลงจากจุดสูงสุดในไตรมาส 3 ที่ 9.8%
ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อจะค่อย ๆ ลดลง แต่วิกฤติในครั้งนี้ก็ยังไม่จบสิ้น เช่น
- ในสหรัฐอเมริกา การเติบโตของค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะยังคงสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลาง (FED)
- ราคาพลังงานที่สูงในยุโรปทำให้เกิดวิกฤติค่าครองชีพที่ผลักดันให้เศรษฐกิจในหลาย ๆ ประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย
แต่ประเทศจีนเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำอย่างไรก็ตามสถานการณ์โควิดภายในประเทศก็ยังเป็นความเสี่ยงหลักของประเทศจีน
สหรัฐอเมริกา
ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค CPI เดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ ลดลงกว่าที่ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ โดยอัตราหลักชะลอตัวลงเหลือ 0.2%
การต่อสู้กับเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐได้รับแรงสนับสนุนจากลดข้อจำกัดด้านอุปทาน การชะลอตัวของอุตสาหกรรมที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย และราคาพลังงานที่ลดลง
ตัวชี้วัดเบื้องต้นชี้ว่า ในเดือนธันวาคมอัตราเงินเฟ้อก็จะยังคงชะลอตัวต่อไป และผู้กำหนดนโยบายของเฟดบางส่วนอาจเริ่มที่จะหารือในการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุม FOMC ในปลายเดือนมกราคม
สหภาพยุโรป
ในเดือนพฤศจิกายน 2022 อัตราเงินเฟ้อประจำปีของยูโรโซนลดลงจาก 10.6% ในเดือนตุลาคมเป็น 10.1% อัตราเงินเฟ้อประจำปีของสหภาพยุโรปอยู่ที่ 11.1% ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ลดลงจาก 11.5% ในเดือนตุลาคม
อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวจะเป็นข่าวดีสำหรับธนาคารกลางยุโรป แต่การที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงทรงตัวที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5% ทำให้ธนาคารกลางยุโรปอาจยังคงใช้นโยบายการเงินเข้มงวดต่อไป
จากข้อมูลของ Bloomberg พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้ถึงจุดสูงสุดแล้วและจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปี 2023
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจลดลง เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนของผู้ผลิตก่อนหน้านี้จะค่อย ๆ ลดลงตามราคาสินค้า ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างจะผลักดันอัตราเงินเฟ้อภาคบริการให้สูงขึ้น และ Blooomberg คาดการณ์ว่า ECB จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงไตรมาส 1/2023
สหราชอาณาจักร
อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในเดือนพฤศจิกายนลดลงเหลือ 10.7% จาก 11.1% ในเดือนตุลาคม จึงมีแนวโน้มว่าอัตราเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว
อย่างไรก็ตามในช่วงฤดูหนาวคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงต่อไป และอาจจะค่อย ๆ ลดลงต่ำกว่า 10% ในเดือนมีนาคม นั่นหมายความว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงต้นปี 2023
จากผลกระทบของราคาพลังงานและราคาสินค้าที่สูงขึ้น Bloomberg คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อภาคบริการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6.3% มีแนวโน้มที่จะคงอยู่ต่อไป
เนื่องจากตลาดแรงงานต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการผ่อนคลาย
Bloomberg คาดการณ์ว่า CPI ประจำปีจะสิ้นสุดที่ 4% และจะยังไม่ลดเหลือต่ำกว่า 2% จนกว่าจะปี 2024
ประเทศไทย
ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศไทยยังไม่ถึงจุดสูงสุด แต่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับลดลงแล้ว จากแรงกดดันด้านอุปสงค์อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดทั้งสองก็ยังคงอยู่เหนือกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 1%–3% และคาดว่าจะอยู่สูงกว่ากรอบดังกล่าวไปจนถึงปี 2023
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 5.55% ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 7 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากราคาอาหารที่ลดลง
ในปี 2023 ธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว แต่ก็ยังมีการคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นในเดือนมกราคมโดยเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานอีก 25 basis points
Bangkok Bank Post ฉบับวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2565
References:
Comments