10,103 และ 1,343 คือ ตัวเลขประมาณการของจำนวนเที่ยวบินที่ต้องถูกเลื่อนและถูกยกเลิกเมื่อวันพุธที่ผ่านมาในประเทศสหรัฐอเมริกา (อ้างอิงจาก CNN และ FlightAware)
เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาดที่ว่า เรื่องไปถึงหูของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และล่าสุดรัฐมนตรีคมนาคมก็เป็นผู้ลงมาตรวจสอบด้วยตนเองแล้ว ซึ่งเบื้องต้น มีข่าวออกมาว่า สาเหตุของปัญหามาจากระบบที่ใช้เพื่อเตือนนักบินล่วงหน้าที่เรียกกันว่า “NOTAM”
ประเด็นสำคัญ คือ ระบบนี้เป็นระบบที่ดำเนินการภายใต้สำนักควบคุมการบินของรัฐบาลสหรัฐฯ (FAA) เองด้วย
ระบบการเตือนภัยที่ไม่ทันสมัย และงบประมาณที่ไม่เพียงพอ
ระบบ NOTAM มีชื่อเต็มว่า Notice to Air Mission เป็นระบบใช้แจ้งเตือนนักบินล่วงหน้าว่า มีความเสี่ยงอะไรในการบินของพวกเขาบ้าง
โดยก็จะมีการแจ้งเตือนทุกอย่าง ไล่ตั้งแต่ หิมะตก เถ้าถ่านจากการระเบิดภูเขาไฟ หรือแม้กระทั่งฝูงนกที่บินรอบสนามบิน
แต่เมื่อเช้าวันพุธตามเวลาของสหรัฐฯ ก็มีปัญหาเกิดขึ้นกับระบบ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถแจ้งเตือนข้อความให้นักบินได้ นำมาสู่การประกาศระงับการบินชั่วคราวในสหรัฐฯ เพื่อทำการแก้ไขระบบเสียก่อน ซึ่งก็ตามมาด้วยการเลื่อนเที่ยวบินมากกว่า 10,000 เที่ยวบิน และยกเลิกไปอีกกว่า 1,343 เที่ยวบิน (อัพเดทล่าสุดวันที่ 12 มกราคม 2023 จาก CNN และ FlightAware)
เหตุการณ์นี้นำมาสู่การตั้งคำถามอย่างมากว่า ประเทศที่มีจำนวนเที่ยวบินมากติดอันดับโลกอย่างสหรัฐฯ ถึงมีระบบที่เปราะบาง และไม่ยืดหยุ่นเช่นนี้ โดยสาเหตุของเหตุการณ์ที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กัน คือ ระบบการควบคุมการบินของอเมริกา “ล้าสมัย” ไปแล้วซึ่งก็เกิดมาจากการที่สำนักควบคุมการบินของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับงบประมาณจากรัฐที่ไม่เพียงพอมาเป็นเวลาหลายปี
หนึ่งในคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์กับ New York Times เกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ “Chesley B. Sullenberger III” ผู้เป็นนักบินที่เคยพาเครื่องลงจอดบนแม่น้ำฮัดสันได้อย่างปลอดภัยในปี 2009 จนนำมาสร้างหนังชื่อดัง
โดยเขากล่าวว่า “ผมขับเครื่องบินต่อเนื่องมายาวนานกว่า 55 ปี และมันก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่า FAA เป็นองค์กรที่ได้รับงบประมาณน้อยเกินไปอยู่บ่อยครั้ง”
(“I’ve been flying airplanes for 55 years, it’s been known for a long time that the F.A.A. is often underfunded)
โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา FAA ได้รับงบประมาณ 18,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อแล้ว งบประมาณดังกล่าวน้อยกว่างบในปี 2004 ที่พวกเขาเคยได้เสียอีก
งบประมาณที่น้อยเกินไปยังส่งผลต่อการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการบินในสนามบินใหญ่ ที่มีไม่เพียงพอ ส่งผลให้การจัดการสนามบินหลายแห่งทำได้ไม่ดีพอ
การลงทุนด้านเทคโนโลยีไม่คุ้มค่า?
เหตุการณ์ที่ระบบแจ้งเตือนของ FAA ขัดข้อง เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำลังมีประเด็นในเรื่องการจัดการสายการบินอเมริกาพอดี โดยสายการบินที่กำลังถูกพูดถึงตอนนี้ คือ Southwest Airlines ที่จำเป็นต้องเลื่อนและยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา
สาเหตุก็มาจากระบบการจัดการการบินที่ไม่ทันสมัย ทำให้พอเข้าสู่ช่วงที่มีจำนวนเที่ยวบินจำนวนมากที่สุดอย่างเทศกาลคริสต์มาส ก็เลยทำให้ไม่สามารถจัดการเที่ยวบินได้
กรณีนี้ใกล้เคียงกับที่เกิดขึ้นกับ FAA อย่างยิ่ง ซึ่งบทเรียนสำคัญจากเรื่องนี้ที่ทั้งสององค์กร และธุรกิจอื่นๆ ได้มา คือ “การลงทุนในเทคโนโลยี” ซึ่งก็ต้องบอกว่า ทั้ง 2 องค์กรก็มีความน่าเห็นใจไม่น้อย เพราะเวลาประเมินในหน้ากระดาษแล้ว หลายครั้งการลงทุนในเทคโนโลยีมันให้ผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน แต่มีต้นทุนเป็นเงินมหาศาล
โครงการการลงทุนด้านเทคโนโลยีก็เลยมักจะถูกชะลอไปก่อน จนถึงจุดที่จำเป็นจริงๆ จึงจะมีการปรับปรุงกันสักครั้งหนึ่ง ซึ่งในตอนนี้ทั้ง 2 เหตุการณ์ก็กำลังถูกตรวจสอบอยู่ โดยมีรัฐมนตรีคมนาคมของสหรัฐฯ Pete Buttigieg ลงมาจัดการด้วยก็ติดตามกันต่อไปว่า แนวทางในอนาคตจะออกมาในลักษณะแบบไหน จะมีการตรวจสอบอะไรกันเพิ่มเติมเป็นประจำไหม
แต่ก็เชื่อว่า ทั้ง 2 องค์กร บริษัทการบินอื่น รวมถึงภาครัฐ ก็จะพยายามปรับตัวให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วการที่เที่ยวบินไม่สามารถขึ้นบินได้ ก็ส่งผลต่อตัวธุรกิจเองและส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น คนที่จะได้ประโยชน์ไปด้วย ก็คือ ผู้บริโภคอย่างพวกเรานั่นเอง
References :
https://edition.cnn.com/us/live-news/faa-system-outage-us-flight-disruptions/index.html
https://www.nytimes.com/2022/12/28/business/economy/southwest-airlines-bob-jordan.html?smid=nytcore-ios-share&referringSource=articleShare
https://www.reuters.com/world/us/why-us-flights-were-grounded-by-faa-system-outage-2023-01-11/
Comments