นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ประชาชนชาวจีนสามารถมีอิสระเดินทางได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็จะถึงเทศกาลตรุษจีนแล้ว ซึ่งตรุษจีนก็เป็นวันหยุดที่สำคัญที่สุดของประเทศ และเป็นเทศกาลที่เราจะได้เห็นการเดินทางครั้งใหญ่เพื่อกลับไปเฉลิมฉลองพิธีกรรมกับครอบครัว
โดยในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ชาวจีนถูกจำกัดการเดินทางเฉลิมฉลองในช่วงตรุษจีน เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด 19 แต่ในปีนี้ เราอาจได้เห็นตรุษจีนกลับมาคึกคักอีกครั้ง
จากการผ่อนคลายนโยบาย Zero-Covid เมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมาแล้วมีอะไรที่เราต้องจับตาในช่วงตรุษจีนปีนี้กันบ้าง ?
สิ่งที่น่าจับตาในช่วงตรุษจีนปีนี้ก็คือ การฟื้นตัวในภาคของการเดินทางและการท่องเที่ยว โดยนักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินอย่าง Barclays Plc คาดว่าการท่องเที่ยวต่างประเทศจะพุ่งสูงขึ้น และข้อมูลจาก Ctrip International ซึ่งเป็นบริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว แสดงให้เห็นว่า การจองการเดินทางระหว่างประเทศสำหรับช่วงวันตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง เพิ่มขึ้นถึง 260% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์จากทางการของจีนว่า จำนวนการเดินทางในช่วงวันหยุดจะแตะ 2,100 ล้านครั้ง เพิ่มเป็น 2 เท่าของปีที่แล้ว แต่ก็ยังคิดเป็นประมาณ 70% ของการเดินทางที่เกิดขึ้นในปี 2019 เท่านั้น
โดยในปีนี้ เราจะได้เห็นทั้งผู้คนจากเมืองใหญ่ ๆ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น เดินทางออกนอกตัวเมืองไปยังต่างจังหวัด และยังมีชาวจีนจากฮ่องกง สิงคโปร์ และจากพื้นที่อื่น ๆ เข้ามายังจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งหน่วยงานด้านการขนส่งของจีนได้กำลังเพิ่มเที่ยวบินและเพิ่มตัวเลือกในการเดินทางรูปแบบอื่น ๆ รวมไปถึงสำรองเชื้อเพลิง เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้นในอนาคต
โดยในเดือนธันวาคมการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเมื่อบวกกับปัจจัยการเดินทาง ที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงวันหยุดตรุษจีนจะทำให้แนวโน้มของอุตสาหกรรมในกลุ่มเชื้อเพลิงการขนส่งสดใสขึ้น
ในภาคส่วนของอุตสาหกรรมที่จะได้รับการฟื้นตัวเป็นอันดับแรก ๆ คือ กลุ่มการเดินทางเพื่อพักผ่อนในประเทศ เช่น สถานที่ท่องเที่ยวเล่นสกีทางตอนเหนือของจีน ก็ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาในช่วงวันหยุดเช่นกัน โดยโรงแรมหลายแห่งถูกจองเต็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ เมืองไหหลำ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทางตอนใต้ของจีนก็ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคน และทำรายได้จากการท่องเที่ยวรวมราว ๆ 223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของการใช้จ่ายจะยังไม่เต็มที่ หรือ กลับไปใกล้เคียงเท่ากับการใช้จ่ายในอดีตที่มีมูลค่าราว ๆ 280,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนกว่าสถานการณ์จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด
เนื่องจากการบริโภคเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจ การที่ร้านค้า ร้านอาหาร ถูกปิดอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงการถูกการจำกัดการเดินทางและการปิดเมือง ส่งผลให้การใช้จ่ายของครัวเรือนจีนลดลงอย่างมาก
โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าการบริโภคจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปลายปี 2023 นี้ จากอุปสงค์ที่ถูกกักไว้ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น และทางรัฐบาลจีนก็ยังมีนโยบายให้ความสำคัญกับการบริโภคภายในประเทศเป็นลำดับต้น ๆ อีกด้วย ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนก็ได้เรียกร้องให้ทางการอุดหนุนด้วยการแจกเงินช่วยเหลือผู้บริโภคเหมือนกับที่ประเทศอื่น ๆ ทำเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย
ในขณะที่บางส่วนก็มองว่า ภาครัฐควรออก นโยบายที่เอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจขนาดเล็กและภาคอสังหาริมทรัพย์มากกว่านี้ เพื่อรักษาระดับการจ้างงานในประเทศ ซึ่งการเปิดประเทศอย่างกระทันหันของจีน และการกลับมาของนักท่องเทียวชาวจีน จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ภาคบริการ การบิน และการท่องเที่ยว ในอนาคต
“สุขสันต์วันตรุษจีนล่วงหน้า ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขมาก ๆ นะคะ” Bnomics
References :
https://english.news.cn/20230115/cdf74b71df604a9889cd0a1e91de1f6f/c.html
Comments