Bnomics 101

Econ Vocabs : Yield Curve Control


นโยบายควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ที่ไม่ได้ทำผ่านเครื่องมือปกติ

ในการดำเนินนโยบายการเงินโดยธนาคารกลางนั้น หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดก็คือ “ดอกเบี้ยนโยบาย” เพราะมันเป็นตัวกำหนดต้นทุนทางเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ การกู้ยืม การฝากเงิน การลงทุนต่างๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี บางครั้งการกำหนดดอกเบี้ยนโยบายอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ทำให้ธนาคารกลางต้องหาเครื่องมือพิเศษใหม่ๆ ขึ้นมา 

สิ่งหนึ่งในนโยบายที่ถูกสร้างขึ้นมา เรียกว่า “Yield Curve Control (YCC)”

Yield Curve Control คือ การที่ธนาคารกลางพยายามควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในตลาดให้อยู่ในระดับที่พวกเขาตั้งไว้  โดยตั้งกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไว้ และเข้าไปซื้อขายพันธบัตรในตลาดโดยตรงเพื่อให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในกรอบนั้นให้ได้ ซึ่งโดยทั่วไปก็จะเป็นการเข้าไปซื้อพันธบัตรที่มีอายุไถ่ถอนยาวๆ เพื่อควบคุมให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวลดลง

(ความสัมพันธ์ระหว่างราคากับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะแปรผกผันกัน อ่านเพิ่มเติม:https://www.bnomics.co/bnomics-economics-101-bond-yield/)

ที่ต้องทำแบบนี้เพราะว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นๆ ได้รับอิทธิพลจาก “ดอกเบี้ยนโยบาย” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ธนาคารกลางใช้เป็นปกติอยู่แล้ว 

แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวกว่าก็มักจะสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น เนื่องจากความเสี่ยงในการถือสินทรัพย์ที่คล้ายกันต่างกันเพียงแค่อายุไถ่ถอน ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่มีอายุไถ่ถอนมากกว่าก็ควรจะมีผลตอบแทนมากกว่า

ทว่าในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในสภาวะถดถอย ธนาคารกลางลดดอกเบี้ยนโยบายจนติดศูนย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว แต่ก็ยังต้องการจะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นอีก จึงคิดจะเข้าไปจัดการให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวกว่าลดลง 

ด้วยแนวคิดที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวกำหนดต้นทุนการกู้ยืมของคนอื่นในระบบเศรษฐกิจด้วย ดังนั้นการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวให้ลดลง ก็จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมระยะยาวของเอกชนลดลงด้วย

ประเทศที่ใช้นโยบาย Yield Curve Control ที่เป็นที่รู้จักก็คือประเทศญี่ปุ่น โดยทางธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ประกาศตรึงผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีไว้ใกล้กับ 0% ในปี 2016 และหลังจากนั้นก็มีการปรับกรอบการตรึงอัตราผลตอบแทนพันบัตรนี้ต่อมาในอนาคต ซึ่งล่าสุดกรอบนี้ก็ขยับจาก -0.25% ถึง 0.25% มาอยู่ที่ -0.5% ถึง 0.5%  

ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของญี่ปุ่นสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ และลดแรงกดดันทางด้านค่าเงินที่ถูกโจมตีจากนักลงทุนลงไปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสามารถการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ลดลง

 

Bnomics Admin

Boston Tea Party งานเลี้ยงน้ำชาที่ก่อร่างสร้างชาติอเมริกา 

Previous article

Wilson แบรนด์เทนนิสอันดับหนึ่งของโลก

Next article

Comments

Leave a reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *