10 ประเทศ “แฟนตัวยง”ของวันคริสต์มาส!

ประเทศยุโรปส่วนใหญ่มีการเฉลิมฉลองคริสต์มาสกันอย่างคึกครื้น แต่ละประเทศก็จะมีธรรมเนียมการฉลองที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป แต่ประเทศไหนที่ถือได้ว่าเป็นแฟนตัวยงและคลั่งไคล้เทศกาลนี้มากที่สุด? โดยทางเว็บไซต์ musement ได้พิสูจน์สิ่งนี้ผ่านการรวบรวมข้อมูลคำค้นหาจาก Google search ว่าประเทศไหนค้นหาคำเกี่ยวข้องวันคริสต์มาสมากที่สุด เช่นคำว่า ต้นคริสต์มาส เพลงคริสต์มาส อาหารและขนมคริสต์มาส ตลาดเทศกาลคริสต์มาส เป็นต้น ประเทศไหนจะติด Top 10 บ้าง ไปชมกันค่ะ

10. สวีเดน 

คริสต์มาสของชาวสวีเดนจะนับตามปฏิทิน Advent ซึ่งนับถอยหลังฉลองสำหรับคริสต์มาส โดยจะเริ่มเตรียมการประมาณวันที่ 27 พฤศจิกายนถึง 3 ธันวาคม ซึ่งไม่ได้มีกำหนดวันชัดเจน 

ในสวีเดนมักตกแต่งต้นคริสต์มาสอย่างเรียบง่าย อาหารสำหรับเฉลิงฉลองเทศกาลจะเริ่มในวันที่ 24 ธันวาคม ชาวสวีเดนมักทาน smörgåsbord หรือบางทีก็เรียกว่า Julbord (ยูล-บูด) มาจากคำว่า jul แปลว่าวันคริสต์มาส และคำว่า bord แปลว่า โต๊ะ รวมกันแล้วหมายถึง โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารเฉลิมฉลองในเทศกาล เช่น มันฝรั่ง สลัด มีทบอล แซลมอนรมควัน ฯลฯ

9. สวิตเซอร์แลนด์ 

รัฐในสวิตเซอร์แลนด์หลายแห่งเริ่มฉลองวันนักบุญนิโคลัสในวันที่ 6 ธันวาคม Saint-Nicolas  อาหารเฉลิมฉลองส่วนใหญ่ คือ ปลาแซลมอน ไก่งวง และฟัวกราส์ แต่เมนูที่ครองใจชาวสวิสต้องยกให้ฟองดูเนื้อสุดอร่อย เหล่าเด็ก ๆ จะเริ่มเปิดของขวัญกันในตอนเย็นของวันที่ 24 ธันวาคม หรือเช้าวันที่ 25 ธันวาคม

8. เบลเยี่ยม

เช่นเดียวกับที่สวิตเซอร์แลนด์ ชาวเบลเยี่ยมเฉลิมฉลองกันวันที่ 6 ธันวาคมของนักบุญนิโคลัส ก่อนการเฉลิมฉลองเด็กๆ จะดื่มนมแก้วใหญ่ คุกกี้นิโคลัสและคุกกี้แครอทเพื่อรอรับของขวัญสำหรับเด็กดี อย่างไรก็ตามธรรมเนียมการเฉลิมฉลองที่เบลเยี่ยมก็ได้ต้นแบบมาจากชาวอเมริกันเป็นส่วนใหญ่

7. ไอร์แลนด์

หนึ่งในธรรมเนียมมีการฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของชาวไอริช คือ Wren Boys Parade ซึ่งเป็นประเพณีโบราณในการล่านกกระจิบและนำไปประดับประดาบนเสาไฟฟ้า ผู้คนแต่งกายด้วยชุดฟาง แต่งแต้มสีบนใบหน้า ร้องเพลงเต้นรำและเดินพาเหรดไปรอบเมือง

6. เนเธอร์แลนด์

เทศกาลคริสต์มาสของเนเธอร์แลนด์เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม โดยจะมี Singerklass (ภาษาดัตซ์) หรือ นักบุญนิโคลัส คอยมามอบของขวัญให้แก่เหล่าเด็กดี โดยหลังจากมอบของขวัญเสร็จ ชาวดัตซ์ก็จะเริ่มตกแต่งต้นคริสต์มาสกันหลังจากวันที่ 6 ธันวาคมเป็นต้นไป เป็นอีกหนึ่งธรรมเนียมที่น่าสนใจของเนเธอร์แลนด์เลยทีเดียว

5. เดนมาร์ก

เดนมาร์กเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสเหมือนประเทศยุโรปอื่นๆ คือเริ่มฉลองกันวันที่ 24 ธันวาคม แต่ไฮไลต์ของหวานของชาวเดนิสต้องยกให้เมนู Risalamande ซึ่งคือ ข้าวเมล็ดกลมต้มกับนมจนแฉะคล้ายข้าวเปียก และนำมาคลุกกับวิปครีม ใส่น้ำตาล เกลือและเมล็ดอัลมอนด์ โรยด้วยซอสเชอร์รี่ หอมหวานนุ่มละมุนลิ้น

4. สหราชอาณาจักร

สหราชอาณาจักรมีประเพณีเทศกาลคริสต์มาสที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เช่น การแสดงละครใบ้ ที่มีทั้งการเต้นรำ ร้องเพลง ความตลกขบขัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีมายาวนานของสหราชอาณาจักร 

อาหารที่โดดเด่นต้องยกให้ “พายสับ” ทำจากผลไม้แห้ง เครื่องเทศฤดูหนาว ตบท้ายด้วย “พุดดิ้งคริสต์มาส” ซึ่งจะเริ่มทำ 6 สัปดาห์ก่อนถึงวันคริสต์มาส! ตามด้วยอาหารอีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นผลไม้แห้ง เกล็ดขนมปัง บรั่นดี ฯลฯ

3. ออสเตรีย

ที่ประเทศออสเตรีย คนที่นำของขวัญมาให้แก่เหล่าเด็ก ๆ ไม่ใช่ซานตาคลอสแต่เป็นกุมารพระเยซู (Baby Jesus) และยังมีตัวละครสำคัญอีก 2 ตัวคือนักบุญนิโคลัส (St. Nicholas) ที่แสนใจดีคอยดูแลและรางวัลแก่เด็กที่ประพฤติดี ในขณะที่ปีศาจแครมปัส (Krampus) จะคอยแกล้งและทำโทษเด็กซนให้กลับตัวเป็นเด็กดี

2. เยอรมนี

คริสต์มาสของชาวเยอรมันไม่ได้มีแค่อาหารพื้นเมือง แต่ยังเต็มไปด้วยประเพณีสุดพิเศษมากมาย แต่กิจกรรมที่สำคัญมากของชาวเยอรมันคือการใช้ “ปฏิทินนับถอยหลังสู่คริสต์มาส” (The Advent calendar) ซึ่งมีมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 โดยชาวเยอรมันแต่ละครอบครัวจะวาดแถบ 24 แถบไว้บนประตูหรือกำแพงแล้วคอยลบออกเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงวันคริสต์มาส

เยอรมนียังเป็นประเทศที่มีปฏิทินนับถอยหลังที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย! โดยตั้งไว้ที่เมือง Gengenbach พร้อมตกแต่งประดับประดาด้วยดอกไม้แห้ง ผลไม้เบอร์รี่และลูกอมเพื่อความสวยงาม

1. นอร์เวย์ 

ชาวนอร์เวย์ฉลองวันคริสต์มาสในวันที่ 24 ธันวาคมหรือรู้จักในชื่อ Julaften ในช่วงเย็นครอบครัวจะมาพบปะกันพร้อมหน้าเพื่อทานอาหารและแลกของขวัญกัน 

ที่นี่ซานต้าคลอสไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่คนมักชื่นชอบ Julenisse ชายผู้มีเครายาวสีขาว โดยปกติที่อื่นจะเริ่มเตรียมการสำหรับคริสต์มาสล่วงหน้าหลายสัปดาห์ แต่ชาวนอร์เวย์จะเริ่มตกแต่งต้นคริสต์มาสและทำอาหารในวันที่ 23 ธันวาคมของทุกปี 

Reference:

https://blog.musement.com/us/christmas-spirit-throughout-europe/